อาการภูมิแพ้ กวนใจ ป้องกันได้ง่ายๆแค่รู้เรื่องนี้

อาการภูมิแพ้ กวนใจ ป้องกันได้ง่ายๆแค่รู้เรื่องนี้

แค่นึกถึงก็เหนื่อยใจ กับอาการภูมิแพ้ ทั้งจาม ทั้งคัดจมูก หายใจติดขัด จนรู้สึกไม่สะดวกอยากจะตัดอาการนี้ทิ้งๆไปจากชีวิต หรือบางคนที่อาการหนักถึงขั้นแน่นหน้าอก ไอ มีอาการหอบหืด ก็มี

แต่อาการที่มักจะกวนใจคนไทยหลายๆคนก็มักจะเป็นอาการแพ้เล็กๆน้อยที่กวนใจบ่อยๆ คือ แพ้อากาศ แพ้ขนสัตว์ หรือแม้แต่แพ้ฝุ่น ทำให้หลายๆคนจามกันจน เจ็บแสบ จมูกน้ำตาไหล ตาแดงก่ำกันไปหมด

ก่อนจะไปรู้วิธีการป้องกัน เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า ภูมิแพ้ คืออะไร?

โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่เกิดจากการตอบสนองของร่างกายที่ไวต่อสารก่อภูมิแพ้มากกว่าปกติ เลยเกิดอาการผิดปกติกับอวัยวะที่สัมผัสโดนสารก่อภูมิแพ้นั้น ๆ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีอาการในโรคนี้แตกต่างกันและความรุนแรงก็จะไม่เท่ากันเหมือนตามที่เคยได้กล่าวไว้ในข้างต้น และชนิดของสารก่อภูมิแพ้ที่ได้รับและการตอบสนองของร่างกายแต่ละคนนั้นก็จะต่างกันด้วย

สิ่งที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ก็มีอยู่ 2 ประเภทหลักๆนั้นก็คือ

1) ภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อมและอากาศ เช่น ฝุ่น ขนสัตว์ ละอองเกสร เชื้อรา ฯลฯ

2) ภูมิแพ้ประเภทอาหาร เช่น นม ไข่ ถั่ว แป้งสาลี อาหารทะเล ฯลฯ

อาการของผู้ป่วยโรคนี้ส่วนใหญ่ก็จะมี

ผื่นคัน, น้ำมูก , ลมพิษ , จาม , คันตา , คัดจมูก , แน่นหน้าอก , แสบตา , ไอ , หอบ , หายไม่สะดวก

และอาจมีอาการอื่นแทรกซ้อนอีกที่ร้ายแรงกว่านี้ เราจึงจำเป็นต้องหมั่นสังเกตตนเองว่าอาการภูมิแพ้ของเรามีอาการมากน้อยและร้ายแรงแค่ไหน จะได้ทำการพบแพทย์ได้ทันก่อนเกิดอันตราย

แล้วเราจะทำการป้องกันได้อย่างไร?

สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้มีอาการแพ้ร้ายแรง มีเพียงอาการกวนใจที่ใครๆก็มักจะรำคาญและ และเป็นอาการเพียงชั่วคราว แต่เป็นอาการที่มาบ่อยๆและไม่สามารถควบคุมได้

แม้จะหลีกเลี่ยงสาเหตุที่มักจะก่อให้โรคหรืออาการภูมิแพเพื่อป้องกันอาการที่แสนกวนใจเหล่านั้น แต่นั้นก็ไม่100% เพราะสุดท้ายแล้วเราก็อาจจะต้องกลับไปเป็นอยู่ดี เพียงแค่เผลอเข้าไป สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้

ในเมื่อเราไม่สามารถทำให้หายขาดได้ แถมสิ่งที่ทำให้เราเกิดอาการภูมิแพ้ก็คือ ปัจจัยต่างๆภายนอกเช่น ควันรถ เกสรดอกไม้ หรือสิ่งเร้าอื่นๆที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงเข้าไปสัมผัสในชีวิตประจำวันได้ แล้วเราจะป้องกันมันอย่างไรล่ะ?

เราต้องเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง

ในเมื่อเราไม่สามารถควบคุมสิ่งต่างๆรอบตัวได้แต่เราสามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ เช่น เราสามารถหลีกเลี่ยงไม่นำอาหารที่เรามีอาการแพ้มารับประทานได้ และเราก็สามารถทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและเสริมภูมิคุมกันในร่างกายได้เช่นกัน 

โดยผลไม้ที่เราแนะนำให้ท่านทานนั้นนั้นก็คือ Cranberry ผลไม้สีแดงสดนี้ มีทั้งวิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค1 ทองแดง และแมงกานีส ผลไม้ชนิดนี้ช่วยลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ยังชะลอความเสื่อมของจอประสาทตา และยัง ช่วยป้องกันหวัดและภูมิแพ้ เป็นอีกหนึ่งสรรพคุณที่คนไทยหลายๆคนไม่ค่อยทราบกัน

จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีวิตามินซี สูง สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายได้อย่างดี ถ้าสังเกตดีๆในภาพยนตร์อเมริกา หรือ หนังสือที่มาจากตะวันตก จะเห็นว่าในเทศกาลที่เฉลิมฉลองอย่างวัน ขอบคุณพระเจ้าหรือ แม้กระทั้งอาหารที่ทานกันก็จะมีอาหารบางอย่างที่ใช้ Cranberry เป็นส่วนผสม เช่น Cranberry sauce ที่มักเอาไว้ใช้ทานคู่กับไก่งวง หรือ Cranberry juice ที่คนตะวันตกมักจะดื่มกัน

ด้วยชาติหวานอมเปรี้ยว ทานง่ายคนทางตะวันตกหรืออเมริกาจึงนิยมทานกัน แต่เหตุผลจริงๆก็ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ด้วยความที่เป็นเมืองหนาว โรคภัยไข้เจ็บเองก็เยอะ อาการภูมิแพ้อาการจาม และ Cranberry ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Super food เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ เช่น วิตามินซี วิตามินเอ โพแทสเซียม และโพลีฟีนอล หลายชนิด โดยเฉพาะสารโปรแอนโทไซยานิดินหรือสารแพค (Proanthocyanidin หรือ PAC) ที่อาจมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงโรคระบบทางเดินหายใจ โรคมะเร็ง Cranberry จึงเป็นอีกหนึ่งทางที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับคนที่นั้น อีกทั้งเป็นผลไม้ที่มีมากหาทานง่ายคนจึงนิยมทานกัน

แต่หาทานง่ายที่นั้น แต่ไม่ได้หาทานง่ายที่ไทยนี้นา? แล้วเราจะหาทานได้อย่างไร?

ทุกวันนี้มีการนำ Cranberry มาทำเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหลายรูปแบบ และได้นำเข้ามาจำหน่ายในไทยหลายรูปแบบ และได้มีผลิตภัณฑ์ น้ำCranberry ให้เลือกสรรมากมายตาม Supermarket ทุกวันนี้เรามีทางเลือกในการรักษาสุขภาพร่างกายที่หลากหลายทางเลือก และอาหารที่เรารับประทานกันก็มีหลากหลายมากขึ้นเช่นกัน แต่อย่าลืมทุกอย่างล้วนมีผลดีและผลเสีย

หากบริโภค Cranberry ในปริมาณมากเกินไป อาจส่งผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย หรืออาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดนิ่วในไตได้

และการรับประทานแครนเบอร์รี่สดอาจมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด โดยเฉพาะในผู้ที่กำลังรับประทานยาละลายลิ่มเลือดหรือยาต้านเกล็ดเลือดอยู่ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคผลไม้ชนิดนี้ และหากใครที่มีอาการแพ้แอสไพรินไม่ควรทานอย่างยิ่งเนื่องจาก Cranberry กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ที่ออกฤทธิ์คล้ายคลึงกับยาแอสไพรินที่ช่วยบรรเทาปวด หากรับประทานเข้าไปอาจเกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน อย่าลืมหาข้อมูลก่อนตัดสินใจรับประทาน

อย่าลืมว่าแม้สิ่งนั้นจะมีประโยชน์แค่ไหนแต่การทานเกินพอดีก็ส่งผลเสียได้เช่นกัน การรับประทานCranberry เหมือนเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน แต่อย่าลืมออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายภายนอกของเราแข็งแรง จะได้แข็งแรงทั้งภายนอกและภายในควบคู่กันไป